Image

หน้าแรก >> แอลกอฮอล์ส่งผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไร

แอลกอฮอล์ส่งผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไร

2.0 บทนำ

หลายคนนิยมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเข้าสังคม เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญ หรือดื่มพร้อมมื้ออาหาร แต่แอลกอฮอล์ก็อาจถูกใช้ในทางที่ผิดได้ การทำความเข้าใจว่าแอลกอฮอล์ส่งผลต่อร่างกายอย่างไรจึงเป็นเรื่องสำคัญ การรู้จักขีดจำกัดของตนเองจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

ปริมาณที่คุณดื่มเป็นตัวกำหนดผลกระทบที่แอลกอฮอล์มีต่อคุณ แต่ตัวคุณเองและวิธีการดื่มของคุณก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน

เนื้อหาในส่วนนี้จะอธิบายว่า ร่างกายของคุณจัดการกับแอลกอฮอล์อย่างไร และแอลกอฮอล์ส่งผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่คุณต้องตระหนักคือ แต่ละบุคคลตอบสนองต่อแอลกอฮอล์แตกต่างกัน

หากคุณมีข้อสงสัยหรือความกังวลเกี่ยวกับผลของแอลกอฮอล์ที่มีต่อคุณ คุณควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อรับการประเมินผลกระทบดังกล่าว

2.1 เกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณดื่มแอลกอฮอล์

ทันทีที่คุณเริ่มดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณของแอลกอฮอล์บางส่วนจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและไหลเวียนทั่วร่างกายของคุณ [i][ii]

ปริมาณแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังตับ ที่มีหน้าที่ย่อยสลายแอลกอฮอล์ด้วยเอนไซม์ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดพิเศษที่จะเปลี่ยนแอลกอฮอลให้กลายเป็นสารที่ชื่อว่า อะเซตาลดีไฮด์ [iii] และเนื่องจากสารอะเซตาลดีไฮด์มีความเป็นพิษ ร่างกายจึงจะย่อยสลายสารนี้ต่อไปจนกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ เพื่อให้สามารถขับออกจากร่างกายได้โดยง่ายพร้อมของเสียอื่นๆ

ดังนั้น เมื่อคุณดื่มมากหรือเร็วเกินไป ตับของคุณจะไม่สามารถทำการย่อยสลายได้ทัน ส่งผลให้เกิดการสะสมของสารอะเซตาลดีไฮด์ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอันตรายได้

บางคนมีลักษณะทางพันธุกรรมที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายสารอะเซตาลดีไฮด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจรวมถึงอาการหน้าแดง คลื่นไส้ และวิงเวียน นอกจากนี้ คนกลุ่มนี้ยังมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวบางประการอีกด้วย [iv]

[ii] Paton, A. Alcohol in the body. BMJ, 2005. 330: 85-7.
[iii] National Institute on Alcohol Abuse and Alcoholism (NIAAA). Alcohol flush reaction: does drinking alcohol make your face red? Bethesda, MD: NIAAA, 2022.
[iv] National Institute on Alcohol Abuse and Alcoholism (NIAAA). Alcohol’s effects on health. Bethesda, MD: NIAAA, 2022.

รู้หรือไม่?

คนบางคนที่มีเชื้อสายจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี อาจมีอาการที่ไม่พึงประสงค์เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ เช่น “อาการหน้าแดง”

อาการดังกล่าวมีสาเหตุจากลักษณะพันธุกรรมที่ตับไม่สามารถย่อยสลายอะเซตาลดีไฮด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณมีลักษณะทางพันธุกรรมนี้ คุณควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากภาวะสุขภาพของคุณอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป

ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์อย่างไร

2.2 ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด (BAC) คืออะไร
และมีความสำคัญอย่างไร

หลายประเทศมีกฎหมายกำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ที่อนุญาตให้ดื่มเมื่อขับรถ โดยอ้างอิงจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ส่งผลต่อการสั่งการของสมองที่กำกับการเคลื่อนไหว การตอบสนองการตัดสินใจ และสมาธิ [i][ii]

ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของคุณ หรือปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด (BAC) สะท้อนถึงจำนวนเครื่องดื่มที่คุณดื่ม โดยสำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพปกติ การดื่มมาตรฐาน 1 แก้วที่คุณดื่มใน 1 ชั่วโมง จะเพิ่ม BAC ประมาณ 0.02%

ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงค่าประเมินเท่านั้น จึงไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการตัดสินใจว่า คุณสามารถขับรถได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี การดื่มแล้วขับรถเป็นพฤติกรรมไม่ควรทำควบคู่กัน

แต่ละประเทศมีการกำหนดปริมาณ BAC ขณะขับขี่แตกต่างกัน[iii] ดังนั้น คุณจำเป็นต้องทราบเกี่ยวกับปริมาณ BAC ของประเทศที่คุณอาศัยอยู่ได้กำหนดไว้ในข้อกฎหมาย

[i] Irwin, C. et al. Effects of acute alcohol consumption on measures of simulated driving:
A systematic review and meta-analysis. Accid Anal Prev, 2017. 102: 248-266.
[ii] Martin, T.L. et al. A review of alcohol-impaired driving: the role of blood alcohol concentration and complexity of the driving task. J Forensic Sci, 2013. 58:1238-1250.
[iii]World Health Organization (WHO). Global Status Report on Road Safety 2023. Geneva: WHO, 2023.

กฎหมายในประเทศไทยอนุญาตให้ผู้ที่มีค่า BAC ที่ระดับ 0.05% สามารถขับขี่ได้

อย่างไรก็ตาม มีการกำหนดระดับค่า BAC ไว้ที่ 0.02% สำหรับผู้ที่ขับรถต่างโดยอาชีพ และผู้ขับขี่ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

รู้หรือไม่?

ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (BAC) หมายถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่มีในเลือด ยกตัวอย่างเช่น ค่า BAC 0.02 หมายถึงในเลือดของคุณมีปริมาณแอลกอฮอล์ 0.02%

เนื่องจากปริมาณแอลกอฮอล์บางส่วนจะถูกการระบายผ่านทางปอดเมื่อหายใจออก จากนั้นแอลกอฮอล์ส่วนที่เหลือจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ด้วยเหตุนี้ ค่าแอลกอฮอล์ที่เจืออยู่ในลมหายใจจึงเป็นค่าที่ใช้ในการตรวจวัดระดับ BAC ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพตามท้องถนนเพื่อบังคับใช้กฎจราจร

ทั้งนี้ แต่ละประเทศมีการตั้งเกณฑ์ของค่า BAC ที่แตกต่างกัน

ความแตกต่างของค่า BAC หลังการดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

  • ปริมาณและความเร็วในการดื่ม: ยิ่งดื่มมากและดื่มเร็วเท่าใด ระดับค่า BAC ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
  • เพศ: ประสิทธิภาพการย่อยสลายแอลกอฮอล์ของร่างกายมีความแตกต่างกันในผู้ชายและผู้หญิง  โดยปริมาณแอลกอฮอล์ที่ร่างกายได้รับเท่ากัน จะมีผลต่อร่างกายผู้หญิงเร็วกว่า
  • ขนาดร่างกาย: คนที่มีขนาดร่างกายใหญ่กว่าจะต้องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าคนที่มีขนาดร่างกายเล็กกว่า ถึงจะมีค่า BAC ในระดับที่เท่ากัน
  • อาหารและเครื่องดื่ม: การรับประทานอาหารก่อนและขณะดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ การดื่มน้ำก็สามารถช่วยชะลอการดูดซึมของแอลกอฮอล์ได้เช่นกัน
  • ประเภทของเครื่องดื่ม: เพราะแอลกอฮอล์ก็คือแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ ไวน์ หรือสุรา ล้วนมีผลต่อร่างกายของคุณเท่ากัน

รู้หรือไม่?

ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ปริมาณแอลกอฮอล์ที่คุณดื่มเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ด้วย เช่น

  • ความเร็วในการดื่ม
  • ขนาดร่างกายและเพศของคุณ
  • การรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

หากคุณดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าดื่มไปมากหรือน้อยแค่ไหน คุณควร “งดเว้นการขับขี่” ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือแม้แต่รถจักรยาน

2.3 การดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไร

เมื่อคุณดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมสู่สมองอย่างรวดเร็ว และจะส่งผลต่อพฤติกรรมของคุณเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่า คุณดื่มมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลของแอลกอฮอล์ที่มีต่อการทำงานของสมองนี้ อาจทำให้คุณรู้สึกง่วง มีพลัง หรือมึนเมา นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณในระยะยาวอีกด้วย

ระดับของผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์ที่มีต่อสุขภาพของคุณ นอกจากจะขึ้นอยู่กับปริมาณและวิธีการดื่มของคุณแล้ว ยังรวมถึงพันธุกรรมและลักษณะนิสัยของตัวคุณด้วย ทั้งนี้ คุณสามารถหาข้อมูลเพื่อศึกษาคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกดื่มได้อย่างเหมาะสม

ผลที่ร่างกายได้รับทันทีหลังการดื่มแอลกอฮอล์

ช่วงแรกที่คุณเริ่มดื่มแอลกอฮอล์ คุณอาจรู้สึกผ่อนคลาย แต่เมื่อดื่มมากขึ้น แอลกอฮอล์จะเริ่มส่งผลต่อพฤติกรรม ประสาทสั่งการเคลื่อนไหวของร่างกาย และ ความเร็วในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ของคุณ

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปสามารถส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจของคุณ โดยอาจทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาด ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างไม่เหมาะสม และมีความเสี่ยงต่อการเกิดภัย ดังนั้น ยิ่งคุณดื่มมากก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวคุณหรือผู้อื่น จนอาจได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต

การดื่มและการดูแลสุขภาพในระยะยาว

การดื่มสามารถมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณในระยะยาว ซึ่งการดื่มในปริมาณมากเกินไป จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจของคุณอย่างแน่นอน ดังนั้น การดื่มแต่พอดีนั้นเป็นประเด็นที่ค่อนข้างซับซ้อน และสำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีส่วนใหญ่ สามารถมีวิถีชีวิตที่สมดุลและมีสุขภาพดีได้ด้วยการดื่มแต่พอดี[i]

ยิ่งคุณดื่มแอลกอฮอล์มากเท่าไร ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น เช่น

โรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดในสมอง จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณของการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ดี งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เผยว่า การดื่มแต่พอดีอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรค CVD ในบางคนได้ [iii][iv]

โรคมะเร็ง โรคมะเร็งหลายชนิด (มะเร็งช่องปาก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งตับ) มีความเชื่อมโยงกับการดื่มหนัก[v] โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้แม้ว่าจะดื่มแต่พอดีแล้วก็ตาม [vi][vii]

โรคตับและระบบทางเดินอาหาร การดื่มหนักเป็นเวลาหลายปีติดต่อกันอาจนำไปสู่โรคตับแข็ง และมะเร็งตับ ตลอดจนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคตับอักเสบและโรคถุงน้ำดีอักเสบ [viii]

โรคเบาหวาน ผู้ที่ดื่มหนักมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากขึ้น อย่างไรก็ดี มีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า การดื่มแต่พอดีและการใช้ชีวิตที่สมดุลสามารถลดความเสี่ยงนี้ได้ [ix][x]

ระบบประสาทด้านความจำและการสั่งการ การดื่มหนักสามารถก่อให้เกิดโรคสมองเสื่อม และกระทบต่อการทำงานของสมอง แต่มีบางงานวิจัยพบว่า การดื่มแต่พอดีในผู้สูงอายุบางรายมีความเชื่อมโยงกับการเสริมสร้างความจำและการพัฒนาด้านสมรรถภาพทางสมอง[xi]

ผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์ การดื่มระหว่างตั้งครรภ์เพิ่มความเสี่ยงต่อทารกที่จะเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางสมองและร่างกายอย่างรุนแรง รวมถึงภาวะพิษสุราในครรภ์ หรือ Fatal Alcohol Syndrome (FAS) ดังนั้น สตรีมีครรภ์จึงไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์[xii]

โรคพิษสุราเรื้อรัง (Alcohol Use Disorder หรือ AUD) ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักเป็นเวลาหลายปีอาจพัฒนาสู่ภาวะเกิดโรคพิษสุราเรื้อรัง (AUD) หรือกลายเป็นคนที่ ‘ติด’ แอลกอฮอล์ ทั้งนี้ โรคพิษสุราเรื้อรัง (AUD) เป็นภาวะทางสภาพจิตที่ต้องได้รับการดูแลและรักษาอย่างใกล้ชิดผ่านการบำบัดหรือการให้ยา[xiii]

[i] Hendriks HFJ. Alcohol and human health: what is the evidence? Annu Rev Food Sci Technol. 2020, 11:1-21.
[ii] Briasoulis, A. et al. Alcohol consumption and the risk of hypertension in men and women: a systematic review and meta-analysis. J Clin Hypertens (Greenwich). 2012. 14(11): 792-8.
[iii] Yoon, S.J. et al. The protective effect of alcohol consumption on the incidence of cardiovascular diseases: is it real? A systematic review and meta-analysis of studies conducted in community settings. BMC Public Health. 2020. 20(1): 90;
[iv] Ronksley, P.E. et al. Association of alcohol consumption with selected cardiovascular disease outcomes: a systematic review and meta-analysis. BMJ. 2011. 342: d671.

[v] Cao, Y. & Giovannucci, E.L. Alcohol as arisk factor for cancer. Semin Oncol Nurs. 2016. 32(3):325-31.
[vi] Bagnardi, V. et al. Alcohol consumption and site-specific cancer risk: a comprehensive dose-response meta-analysis. Br J Cancer. 2015. 112(3): 580-93.
[vii] Choi, Y.J. et al. Light alcohol drinking and risk of cancer: a meta-analysis of cohort studies. Cancer Res Treat. 2018. 50(2):474-487.
[viii]Zhang, R. et al. Risk factors and protective factors for alcohol-related liver disease: a systematic review and meta-analysis. Alcohol Clin Exp Res. 2022. 46(12): 2128-2136.

[ix] Li, X.H. et al. Association between alcohol consumption and the risk of incident type 2 diabetes: a systematic review and dose-response meta-analysis. Am J Clin Nutr. 2016. 103(3): 818-29.
[x] Llamosas-Falcón, L. et al. The relationship between alcohol consumption, BMI, and Type 2 diabetes: a systematic review and dose-response meta-analysis. Diabetes Care. 2023.46(11): 2076-2083.
[xi] Rehm, J. et al. Alcohol use and dementia: a systematic scoping review. Alzheimers Res Ther. 2019. 11:1.
[xii] Popova, S. et al. Fetal alcohol spectrum disorders. Nat Rev Dis Primers. 2023. 9(1):11.
[xiii] American Psychiatric Association. Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders, Fifth Edition, Text Revision (DSM-5-TR). 2023. Washington, DC: APA.

คุณไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เพื่อหวังผลด้านการบำรุงสุขภาพ และผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ก็ไม่ควรเริ่มดื่มด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ยังสามารถทำให้โรคบางชนิดมีอาการแย่ลงได้

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพ คุณควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

2.4 ตัวคุณเป็นปัจจัยที่สำคัญหรือไม่

แอลกอฮอล์ส่งผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม พฤติกรรม และวิถีชีวิตของตัวคุณอย่างมาก การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ สามารถช่วยให้คุณควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์หรือเลือกที่จะไม่ดื่มเลย เพื่อจัดการและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณ [i]

รู้หรือไม่?

ทุกคนมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อแอลกอฮอล์แตกต่างกัน และมีปัจจัยที่กระตุ้นความเสี่ยงที่เกิดจากแอลกอฮอล์ที่ต่างกัน ทั้งนี้ ผลกระทบของแอลกอฮอล์ที่มีต่อร่างกายในระยะยาวขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้

  • เพศและช่วงอายุของคุณ
  • ประวัติสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว
  • พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และน้ำหนักตัว
  • การสูบบุหรี่ การใช้ยาบางชนิด หรือสารเสพติด

โรคส่วนใหญ่ที่มีแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยง สามารถเกิดขึ้นได้แม้กับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลยก็ตาม

  • เพศ: ร่างกายของผู้ชายและร่างกายของผู้หญิงมีการย่อยสลายแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกัน โดยแอลกอฮอล์ในปริมาณเท่ากันจะส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย[ii][iii]
  • ผู้เยาว์: แอลกอฮอล์ส่งผลกระทบต่อผู้เยาว์มากกว่าผู้ใหญ่ และอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ในภายหลัง รวมถึงมีความเสี่ยงที่ต่อการเกิดโรคพิษสุราเรื้อรัง (AUD) เพิ่มขึ้น[iv]
  • ผู้สูงอายุ: แอลกอฮอล์มีผลต่อผู้สูงอายุมากกว่า โดยแอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ การล้ม และสร้างปฏิกิริยาเชิงลบกับยา รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพิษสุราเรื้อรัง (AUD) ด้วย [v][vi]
  • ปัจจัยเสี่ยงจากรูปแบบการใช้ชีวิต: หากคุณเป็นผู้ที่ทั้งดื่มและสูบบุหรี่ คุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูงกว่าผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว[vii] การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การไม่ออกกำลังกาย และการมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่างๆ ต่อตัวคุณ[viii]
  • การมีสังคม: งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า ความเหงาและการมีวงสังคมที่จำกัดอาจส่งผลต่อการดื่ม และเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการดื่มหนัก[ix][x]
  • ประวัติครอบครัว: ผู้ที่มีประวัติส่วนตัวหรือประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคหัวใจ การติดแอลกอฮอล์ โรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหล่านี้สูงขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ [xi]
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม: พันธุกรรมของบางคนทำให้พวกเขามีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหรือมีปัญหาจากโรคพิษสุราเรื้อรัง (AUD) สูงขึ้น  [xii] ประชากรบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อสายจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี มีพันธุกรรมที่ไม่สามารถย่อยสลายแอลกอฮอล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ[xiii]

[i] World Cancer Research Fund / American Institute for Cancer Research. (2018). Diet, nutrition, physical activity and cancer: A global perspective (Continuous update project expert report 2018).
[ii] Erol, A. & Karpyak, V.M. Sex and gender-related differences in alcohol use and its consequences: Contemporary knowledge and future research considerations. Drug Alcohol Depend, 2015. 156: 1-13.
[iii] Maddern, X.J. et al. Sex differences in alcohol use: is it all about hormones? Endocrinology, 2024. 165(9):bqae088.
[iv]Lees, B. et al. Effect of alcohol use on the adolescent brain and behavior. Pharmacol Biochem Behav. 2020, 192:172906.
[v] Xu, Q. et al. The risk of falls among the aging population: A systematic review and meta-analysis. Front Public Health, 2022. 10:902599.
[vi] Fenollal-Maldonado, G. et al. Alcohol Use Disorder in older adults. Clin Geriatr Med, 2022. 38(1):1-22.
[vii] Kaminsky, L.A. et al. The importance of healthy lifestyle behaviors in the prevention of cardiovascular disease. Prog Cardiovasc Dis, 2022. 70:8-15.

[viii] English, L.K. et al. Evaluation of dietary patterns and all-cause mortality: a systematic review. JAMA Netw Open, 2021. 4(8):e2122277.
[ix] Akerlind, I. & Hörnquist, J.O. Loneliness and alcohol abuse: a review of evidence of an interplay. Soc Sci Med, 1992. 34: 405-414.
[x] Lees, B. et al. Effect of alcohol use on the adolescent brain and behavior. Pharmacol Biochem Behav, 2020. 192:172906.
[xi] Cservenka, A. & Azma, S. Neural correlates associated with a family history of alcohol use disorder: A narrative review of recent findings. Alcohol Clin Exp Res (Hoboken). 2024, Epub ahead of print.
[xii]Zhou, H. & Gelernter J. Human genetics and epigenetics of alcohol use disorder. J Clin Invest. 2024, 134(16):e172885.
[xiii]Edenberg, H.J. The genetics of alcohol metabolism: role of alcohol dehydrogenase and aldehyde dehydrogenase variants. Alcohol Res Health. 2007;30(1):5-13.

การจัดการกับกลุ่ม “เสี่ยง”

คนบางกลุ่มอาจมีความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่แตกต่างกัน และจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำพิเศษเกี่ยวกับการดื่ม

ยกตัวอย่างเช่น คำแนะนำสำหรับสตรีมีครรภ์คือ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ บางประเทศมีการวางแนวปฏิบัติอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการให้นมบุตร และบางประเทศมีการแจ้งเตือนทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่พยายามตั้งครรภ์ให้หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อภาวะการเจริญพันธุ์

เยาวชนมีแนวโน้มที่จะประสบอันตรายจากการดื่มมากกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้น จึงมีคำแนะนำไม่ให้เยาวชนดื่มแอลกอฮอล์จนกว่าจะถึงอายุตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด รัฐบาลของแต่ละประเทศจึงกำหนดเกณฑ์อายุสำหรับการซื้อและดื่มแอลกอฮอล์แตกต่างกันไป [xiv] ในทางปฏิบัติ อายุขั้นต่ำในการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักจะถือว่าเท่ากับอายุที่กฎหมายอนุญาตให้ดื่มได้ถึงแม้ว่าในบางประเทศจะมีกำหนดอายุขั้นต่ำทั้งสำหรับการซื้อและการดื่มแยกกันก็ตาม

ประเทศไทยกำหนดให้ผู้ที่มีอายุครบ 20 ปี สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างถูกกฎหมาย ดังนั้น การจำหน่ายแอลกอฮอลให้กับเยาวชนที่อายุต่ำ 20 ปี เป็นเรื่องผิดกฎหมาย

[xiv] International Alliance for Responsible Drinking (IARD). Minimum legal age limits. Washington, DC: IARD, 2022.

2.5 วิธีการดื่มของคุณมีความสำคัญหรือไม่

วิธีการดื่มของคุณเองก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ

การดื่มแต่พอดีช่วยเพิ่มอรรถรสและสีสันให้กับกิจกรรมทางสังคมได้ แต่หากคุณดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากในเวลาสั้นๆ หรือที่เรียกว่า “ดื่มแบบมาราธอน” จะทำให้คุณเมาอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บแก่ตนเองหรือผู้อื่น รวมถึงอาการแอลกอฮอล์เป็นพิษ อาการโคม่า หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต

หากคุณเลือกที่จะดื่ม ควรดื่มแต่พอดีเสมอ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น

รู้หรือไม่?

เคยสงสัยไหมว่า ความเสี่ยงจากการดื่มแอลกอฮอล์คืออะไร

ประเด็นนี้มักได้รับการนำเสนอผ่านการเปรียบเทียบระหว่างความเสี่ยงของผู้ที่ดื่มกับผู้ที่ไม่ดื่ม ซึ่งเรียกว่า ความเสี่ยงแบบสัมพัทธ์ (Relative Risk)

บางครั้งตัวเลขเหล่านี้อาจดูน่ากลัว แต่ความเสี่ยงของคุณยังขึ้นอยู่กับความแพร่หลายของโรคด้วย ซึ่งเรียกว่า ความเสี่ยงแบบสัมบูรณ์ (Absolute Risk)

ลองมาพิจารณาความเสี่ยงของโรคสมมติที่ชื่อว่า “โครไนทิส” กัน

ความเสี่ยงแบบสัมบูรณ์ (Absolute Risk):

  • ประชากร 5% ของประชากรทั้งหมด (กล่าวคือ ประชากร 5 คน จากจำนวนประชากร 100 คน) เป็นโรค “โครไนทิส” ดังนั้น ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้คือ 5%

ความเสี่ยงแบบสัมพัทธ์ (Relative Risk):

  • ความเสี่ยงของ “โครไนทิส” จะสูงขึ้น 30% ในคนที่ทำงานกลางคืนเมื่อเทียบกับคนที่ทำงานกลางวัน
  • ดังนั้น จึงหมายความว่า ในขณะที่ความเสี่ยงสำหรับคนที่ทำงานกลางวันคือ 5% (5 ใน 100 คน) คนที่ทำงานกลางคืนจะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนที่ทำงานกลางวัน 30% ดังนั้น คนที่ทำงานกลางคืนจะมีความเสี่ยง 6.5% กล่าวคือ ทุกๆ 6.5 คนใน 100 คนที่ทำงานกลางคืนมีโอกาสเป็นโรคนี้

ตัวอย่างนี้ใช้โรคสมมติ แต่ใช้วิธีการคำนวณความเสี่ยงแบบเดียวกับโรคที่เกิดจริง

ความเสี่ยงจากการดื่มแอลกอฮอล์ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์

ทดสอบความรู้ของคุณ (จริงหรือไม่)

เนื่องจากเบียร์มี ABV ที่ต่ำกว่า จึงต้องดื่มเบียร์มากกว่าไวน์และสุรา ถึงจะเมา
คลิกเพื่อดูเฉลย
เนื่องจากเบียร์มี ABV ที่ต่ำกว่า จึงต้องดื่มเบียร์มากกว่าไวน์และสุรา ถึงจะเมา

ผิด

ปริมาณแอลกอฮอล์สำหรับหนึ่งดื่มมาตรฐานในเบียร์ ไวน์ และสุรา ใช้เกณฑ์เดียวกัน แม้ว่าเบียร์จะมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่เจือจางกว่า แต่เบียร์มักเสิร์ฟมาในแก้วหรือภาชนะที่ใหญ่กว่า อย่างไรก็ดี ดื่มมาตรฐานก็ยังเป็นดื่มมาตรฐานในแง่ของปริมาณแอลกอฮอล์

คุณควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อสุขภาพที่ดี และลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
คลิกเพื่อดูเฉลย
คุณควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อสุขภาพที่ดี และลดความเสี่ยงในการเกิดโรค

ผิด

แม้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะอาจเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีสำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงหลายๆ คน แต่การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่วิธีการบำรุงสุขภาพ ผู้ที่ไม่ดื่มก็ไม่ควรเริ่มดื่ม และผู้ที่ดื่มควรพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อตนเองและต่อวิถีชีวิตโดยรวม ตลอดจนพิจารณาปริมาณที่ดื่มด้วย

บางประเทศกำหนดระดับ BAC ที่อนุญาตสำหรับผู้ขับขี่ที่เป็นเยาวชนต่ำกว่าผู้ขับขี่ที่เป็นผู้ใหญ่
คลิกเพื่อดูเฉลย
บางประเทศกำหนดระดับ BAC ที่อนุญาตสำหรับผู้ขับขี่ที่เป็นเยาวชนต่ำกว่าผู้ขับขี่ที่เป็นผู้ใหญ่

ถูก

เนื่องจากแอลกอฮอล์ส่งผลต่อเยาวชนแตกต่างจากผู้ใหญ่ และเนื่องจากเยาวชนขาดประสบการณ์ในการดื่มและขับรถ หลายประเทศจึงกำหนดขีดจำกัด BAC ที่ต่ำกว่าสำหรับเยาวชน (รวมถึงผู้ขับขี่มือใหม่และมืออาชีพ)

ผู้ที่มีอาการ "หน้าแดง" เมื่อดื่มอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพมากกว่าผู้ที่ไม่หน้าแดง
คลิกเพื่อดูเฉลย
ผู้ที่มีอาการ "หน้าแดง" เมื่อดื่มอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพมากกว่าผู้ที่ไม่หน้าแดง

ถูก

อาการหน้าแดงเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ มักบ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจไม่สามารถย่อยสลายแอลกอฮอล์ได้ดี ซึ่งทำให้คนที่มีลักษณะทางพันธุกรรมนี้ ควรระมัดระวังในการดื่ม อาการหน้าแดงมักพบในผู้ที่มีเชื้อสายจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี และพบได้น้อยในกลุ่มอื่นๆ


Image ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Image ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Image ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Image ดูรายละเอียดเพิ่มเติม